ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการประเมินผล

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการประเมินผล

การวัดและการประเมินผลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญองค์ประกอบหนึ่งในการจัดการศึกษาโดยเฉพาะในกระบวนการจัดการเรียนการสอน ครูผ้สอนจะต้องกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ แล้วจึงจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หลังจากนั้นจึงทำการวัดและประเมินผลการสอนว่าเป็นไปตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ นั่นคือครูต้องวัดและประเมินผลทุกครั้งที่มีการสอนครูจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ให้เข้าใจในหลักการและกระบวนการวัดและประเมินผลการเรียนเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

ความหมายของการทดสอบ การวัดผล และการประเมินผล
การทดสอบ ได้มีผู้ให้นิยามไว้ดังนี้
นันนาลี (Nunnally 1967 : 6 อ้างถึงใน ปราณี ไวดาบ 2538 : 7) กล่าวว่าการทดสอบ คือ สถานการณ์มาตารฐานที่จัดขึ้นเพื่อแบ่งบุคคลด้วยคะแนน
มาตรฐาน หมายถึง วิธีการทั้งหมดของการทดสอบรวมถึงการที่ผู้เรียนถูกทดสอบด้วยคำถามเดียวกัน หรือปัญหาเดียวกัน ด้วยวิธีการเดียวกัน
คะแนน หมายถึง ตัวเลขที่แสดงผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนแต่ละคน
เชส (Chase 1974) กล่าวว่าการทดสอบคือวิธีการที่มีระบบสำหรับเปรียบเทียบการกระทำของบุคคลกับมาตรฐานที่วางไว้
ไวร์สมา และเจอร์ส (Wiersma and Jurs 1990 : 9) กล่าวว่าการทดสอบเป็นกระบวนการบริหารแบบทดสอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวัดผลโดยใช้แบบทดสอบเป็นสถานการณ์ไปเร้าให้เกิดการตอบสนอง
การทดสอบ (Testing) หมายถึง เทคนิคอย่างหนึ่งของการวัดผลซึ่งเครื่องมือที่ใช้วัดคือแบบทดสอบ
โดยปกติแล้วการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือเครื่องมือที่ใช้ได้หลายวิธี เช่น การสอบถาม การสังเกต การสัมภาษณ์ การนับ เป็นต้น แต่ถ้าในการวัดครั้งนั้น ใช้แบบทดสอบเป็นแครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และมีกระบวนการวัดผลเกิดขึ้น เรียกว่า การทดสอบ
องค์ประกอบของการทดสอบ
การทดสอบมีองค์ประกอบ 2 ประการดังนี้
1. ใช้แบบทดสอบเป็นเครื่องมือในการวัด ซึ่งแบบทดสอบมีหลายประเภท เช่น แบบทดสอบเขียนตอบ แบบทดสอบปากเปล่า แบบทดสอบภาคปฏิบัติ เป็นต้น
2. ผู้ตอบแสดงพฤติกรรมตอบสนองแบบทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อคนูแจกแบบทดสอบไป ผู้เรียนส่งกระดาษเปล่าหรือไม่ตอบถือว่าไม่มีการทดสอบ


การวัดผล ได้มีผู้ให้นิยามไว้ดังนี้
ไวร์สมา และเจอร์ส (Wiersma and Jurs 1990 : 8) กล่าวว่าการวัดผลคือการกำหนดจำนวนให้กับวัตถุหรือเหตุการณ์ ตามกฎที่ทำให้ ตัวเลขมีความหมายเชิงปริมาณ
อุมาพร จารมาน (2530 : 6) ได้กล่าวว่าการวัด คือการกำหนดตัวเลขให้กับลักษณะตามที่กำหนด
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์ (2535 : 15) กล่าวว่าการวัดเป็นกระบวนการเชิงปริมาณในการกำหนดค่าเป็นตัวเลขหรือสัญลักษณ์ที่มีความหมายแทนคุณลักษณะของสิ่งที่วัดโดยอาศัยกฎเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
การวัดผล (Measurement) หมายถึงกระบวนการกำหนดตัวเลขหรือสัญลักษณ์ให้กับบุคคล สิ่งของ หรือเหตุการณ์อย่างมีกฎเกณฑ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แทนปริมาณ หรือคุณภาพของคุณลักษณะที่จะวัด


องค์ประกอบของการวัดผล
การวัดผลมีองค์ประกอบ 3 ประการ ดังนี้
1. ปัญหาหรือสิ่งที่วัด
2. เครื่องมือวัดหรือเทคนิควิธีในการรวบรวมข้อมูล
3. ข้อมูลเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ หากเป็นข้อมูลเชิงปริมาณจะต้องมีจำนวนและหน่วยวัด หากเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพจะต้องมีรายละเอียดที่แสดงคุณลักษณะซึ่งอาจไม่ใช่ตัวเลข

ประเภทของการวัดผล
การวัดผลหากจำแนกตามคุณลักษณะของสิ่งที่จะวัด แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. การวัดผลด้านกายภาพ (Physical measurement) หมายถึง การวัดคุณลักษณะที่เป็นรูปธรรมคือสังเกตได้ หรือสัมผัสได้ชัดเจน เช่น ระยะทาง ส่วนสูง น้ำหนัก พื้นที่ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการวัดทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่จะวัด และเครื่องมือที่ใช้วัดมีความชัดเจน แน่นอน ผลการวัดมีความน่าเชื่อถือ
2. การวัดผลด้านจิตวิทยา (Psychological measurement) หมายถึง การวัดคุณลักษณะที่นามธรรม เป็นคุณลักษณะของมนุษย์ที่เป็นความรู้สึก สภาพจิตใจ เจตคติ สติปัญญา คงามถนัดของบุคคล เป็นต้น ซึ่งไม่สามารถสังเกตได้ หรือสัมผัสได้โดยตรงเครื่องมือที่ใช้วัดต้องอาศัยวีดทางอ้อม โดยอาศัยทฤษฎีหรือแนวคิดเกี่ยวกับลักษณะนั้น ๆ เป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบ ดังนั้นการวัดผลด้านจิตวิทยานี้จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดความ คลาดเคลื่อนสูงกว่าการวัดผลด้านกายภาพ

การประเมินผลได้มีผู้ให้นิยามไว้ดังนี้
อุทุมพร จามมาน (2530 : 6) กล่าวว่าการประเมินผลเป็นการตัดสินคุณค่าของสิ่งที่วัดตามเกณฑ์ภายในและภายนอก
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์ (2535 : 17) กล่าวว่าการประเมินผลเป็นกระบวนการในการตัดสินคุณค่าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างมีหลักเกณฑ์เพื่อสรุปว่าสิ่งนั้นดี - เลว ปานใด

การประเมินผล (Evaluation) หมายถึงการตัดสินคุณค่าหรือการตีราคาข้อมูลที่ได้จากการวัดโดยเปรียบเทียบกับข้อมูลอื่น ๆ หรือเกณฑ์ที่ตั้งไว้
จากความหมายของการประเมินผลครั้งนี้จะเห็นว่า การวัดผลและการประเมินผลมีความสัมพันธ์กันซึ่งสามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้
การประเมิน = การวัดผล + การตัดสินคุณค่า
(Evaluation) = (Measurement) + (Judgement)
องค์ประกอบของการประเมินผล
การประเมินผลมีองค์ประกอบ 3 ประการดังนี้
1.ข้อมูล
2. เกณฑ์
3. การตัดสินคุณค่าหรือการตัดสินใจ


ความสัมพันธ์ของการวัดและการประเมินผลการเรียนการสอน
เมื่อเราวัดความยาวของโต๊ะ โดยใช้ไม้เมตร ถ้าอ่านค่าตัวเลขได้ 4 เมตร ความยาวของโต๊ะ เท่ากับ 4 เมตรนี้เรียกว่า การวัด แต่ถ้าบอกต่อไปว่า โต๊ะตัวนี้ยาวเกินไปที่จะนำมาวางไว้ในห้องนี้ คำว่านี้ เรียกว่า การประเมิน หรือ จากการสอบความถนัดการใช้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ ภายหลังเมื่อตรวจให้คะแนนแล้ว ถ้าปรากฏว่าเด็กชายสิน ได้ 80 คะแนน เด็กชายทรัพย์ ได้ 30 คะแนน ที่ได้นี้เราเรียกว่า การวัดถ้าครูกล่าวต่อไปว่า เด็กชายสิน มีความถนัดการใช้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์สูงกว่า เด็กชายทรัพย์ คำกล่าวนี้เรียกว่า การประเมิน ในแง่ของการประเมินผลการศึกษา หมายถึง เป็นกระบวนการตัดสินคุณค่าของข้อมูลทางการศึกษาที่วัดมาได้ การประเมินผลการศึกษาที่ดีจำเป็นต้องมีข้อมูลมากพอ จึงประเมินได้ตรงกับสภาพความเป็นจริง เช่น การให้เกรด ซึ่งเป็นการประเมินแบบหนึ่ง จำเป็นต้องมีคะแนนสอบ ยิ่งสอบหลายๆครั้งยิ่งดีและอาจต้องใช้ข้อมูลอื่น ๆประกอบ เช่น รายงานที่ทำการบ้านที่ส่ง การเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ หรือความกระตือรือร้น เป็นต้น
การศึกษาปัจจุบัน ยึดหลักประชาธิปไตยเป็นหลัก แล้วครูก็สามารถจะวินิจฉัยและเลือกกระทำหรือเว้นกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนได้อย่างถูกต้อง เช่น ครู มั่นใจว่าการอบรมสั่งสอนให้เด็กทำงานร่วมกัน แบ่งงานกันทำ หรือหัดให้มีการอภิปรายค้นคว้า ทำรายงาน และดำเนินการปกครอง โดยไม่มีการบีบบังคับอย่างเข้มกวดข้นนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องแน่ และเราทราบว่าการศึกษาในปัจจุบันยึดถือเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นหลัก และการที่จะชี้ขาดว่า ได้ ตก, ดี - เลว, ยาก - ง่าย, หรือ ชมเชย - ตำหนิ เหล่านี้จะต้องยึดเอาปริมาณหรือคุณภาพปานกลางของเรื่องนั้นมาเป็นหลักแห่งการตัดสิน ไม่ใช่นำเอาตัวเองหรือนำเอาคนโง่ที่สุด ฉลาดที่สุด มาเป็นเครื่องวัด ครูจะต้องวินิจฉัยว่าแต่ละสิ่งนั้น ๆ ห่างจากสภาพเฉลี่ยปานกลางไปมากน้อยเท่าใด และเป็นการสมควรแล้วหรือยัง ที่จะกล่าวว่า เขาดี หรือ เลว การที่คิดหรือถือว่า นักเรียนต้องสอบได้ 50 % จึงจะถือว่าสอบไล่ได้ เพราะการคิดและถือเช่นนั้นเป็นการกระทำที่ผิดจากหลักการศึกษาที่เรายึด จงลองพิจารณาปัญหาเหล่านี้ ถ้าประสบกับตัวท่านแล้วควรจะจัดการอย่างไร และควรจะยึดหลักประการใด (ชวาล แพรัตกุล, 2509 : 13)
- ควรเอาใจใส่เด็กพวกไหนก่อน เด็กโง่ เด็กฉลาด หรือเด็กปานกลาง ?
- ควรแยกนักเรียนเก่ง - อ่อน ไว้คนละห้องเรียนหรือไม่ ?
- ควรฝึกฝนให้เด็กเก่งภาษา หรือคำนวณ ?
- ควรให้รางวัลเด็กที่สอบได้ที่หนึ่งหรือไม่ ?
- ควรลงโทษเด็กที่สอบตกหรือไม่ ?
- ควรตัดสินให้เด็กสอบได้ หรือตกดี ?
- ควรมีการคัดเลือกเด็กที่มาสมัครเรียนหรือไม่ ?
- ควรมีการสอบบ่อย ๆ หรือสอบครั้งเดียว ?
- ควรให้นักเรียนชาย - หญิง แยกกันเรียนหรือไม่ ?
- ควรจะตัดสินนักเรียนด้วยคะแนนสอบครั้งสุดท้ายอย่างเดียวหรือไม่ ?


ความมุ่งหมายของการวัดและประเมินผล
Morwin (1972) ได้เสนอการจำแนกความมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลโดยมีขอบเขตของการจำแนกจากการตอบคำถามที่ว่า การวัดและประเมินผล อะไร ของใคร โดยใคร เพื่ออะไร ซึ่งอาจจำแนกได้ดังนี้
1.การวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนของนักเรียนโดยครู เพื่อช่วยในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ได้เหมาะสม
2.การวัดและประเมินผลความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียนโดยครู เพื่อช่วยในการเลือกจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เหมาะสมแก่นักเรียนแต่ละคน
3.การวัดและประเมินผลความสนใจต่ออาชีพของนักเรียน โดยตัวนักเรียนเอง เพื่อช่วยในการวางแผนการจัดแผนการเรียน
4.การวัดและประเมินผลระดับความสัมฤทธิ์ผลของกลุ่มนักเรียนโดยครูเพื่อชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอน
5.การวัดและประเมินผลภาพของหลักสูตร โดยคณะผู้เชี่ยวชาญทางด้านหลักสูตร เพื่อช่วยในการวิเคราะห์พิจารณาว่าสมควรจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักสูตรใหม่หรือไม่
6.การวัดและประเมินคุณภาพหรือประโยชน์ของวิชาที่จะเรียน โดยนักเรียนเพื่อช่วยในการตัดสินใจว่า สมควรจะเลือกหรือไม่
7.การวัดและประเมินผลการ เรียนของนักเรียน โดยคณะกรรมการจัดสรรทุนเรียนดีเพื่อนำมาพิจารณาในการจัดสรรทุน
8.การวัดและประเมินประสิทธิภาพของการทำงานของครู โดยคณะกรรมการบริหารโรงเรียนเพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าสมควรจะจ้างต่อหรือไม่
9.การวัดและประเมินทัศนคติของครู โดยนักเรียน เพื่อช่วยในการเลือกกลุ่มที่จะเรียน
10.การวัดและประเมินประสิทธิภาพของโรงเรียน โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อช่วยในการเลือกโรงเรียนให้บุตรของนักเรียน
11.การวัดและประเมินการรับรู้ของผู้ปกครองต่อแผนการเรียนหรือระบบโรงเรียน โดยผู้บริหารโรงเรียน เพื่อช่วยในการวางแผนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
12.การวัดและประเมินความต้องการของระบบโรงเรียน โดยผู้ที่เสียภาษีเพื่อช่วยในการพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่

อ้างอิง ดร.พิชิต ฤทธิ์จรูญ.(2544)หลักการวักและการประเมินผลทางการศึกษา.กรุงเทพฯ .
สุทิน ฉิมโฉม(2528).การวัดและประเมินผลเบื้องต้น.กรุงเทพฯ:วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทที่ 1 หลักการและเทคนิคการวัดผลและประเมินการเรียนรู้

บทที่ 3 การวัดและประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านจิตพิสัย

บทที่ 4 การประเมินตามสภาพจริง การประเมินจากแฟ้มสะสมงาน และการประเมินภาคปฎิบัติ